5 Step สร้างแรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ

แรงบันดาลใจ (Inspiration) คือ สิ่งเร้า หรือสิ่งกระตุ้นความต้องการให้ได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่าง  แรงบันดาลใจจะเป็นตัวนำให้คุณปรารถนาจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ หากวันนี้คุณต้องการความสำเร็จคุณต้องรู้จัก 5 Step สร้างแรงบันดาลใจสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ

5 Step สร้างแรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ

  • Step 1 ค้นหาแรงบันดาลใจและเลือกเป้าหมายทีละอย่าง
  • Step 2 ตั้งเป้าหมายอย่างไรให้สำเร็จ
  • Step 3 วางแผนอย่างเป็นระบบทำอย่างไร
  • Step 4 ลงมือทำอย่างไรให้สำเร็จเร็ว
  • Step 5 ประเมินผลและพัฒนา

black-choker-on-beige-scarf-1571673

Step 1  ค้นหาแรงบันดาลใจและเลือกเป้าหมายทีละอย่าง

ใน Step นี้ เราจะมาทำความเข้าใจในวิธีการค้นหาแรงบันดาลใจและเลือกเป้าหมายกันก่อนนะคะ โดยใช้การตั้งคำถามกับตัวเอง ดังต่อไปนี้

  1. คุณอยากเห็นตัวเองดีขึ้นในแง่มุมไหน อยากทำเรื่องอะไรให้สำเร็จ คุณมีอะไรหรือมีใครเป็นแรงบันดาลใจหรือไม่
  2. คุณมีทักษะ หรือความสามารถที่จะสนับสนุนเป้าหมายที่คุณต้องการหรือไม่ ได้แก่อะไรบ้าง
  3. หากคุณไม่มี คุณจะเพิ่มทักษะอย่างไรบ้าง
  4. คุณมีโอกาสที่จะทำให้สำเร็จหรือไม่ อย่างไร
  5. หากคำตอบ ข้อ 4 คือไม่มี คุณจะหาโอกาสสำเร็จได้จากที่ใดบ้าง

คุณตอบคำถามทั้ง 5 ข้อ เพื่อที่จะหาเป้าหมายที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ เมื่อคุณได้แล้ว เราก็จะไปสู่ Step ที่ 2 ค่ะ

Step 2  ตั้งเป้าหมายอย่างไรให้สำเร็จ

การตั้งเป้าหมายที่ดี มีหลัก ดังนี้

  1. เป้าหมายต้องชัดเจน เช่น ฉันจะเป็นเขียนหนังสือให้เป็นเล่มและออกจำหน่ายให้ได้
  2. กำหนดเวลาที่จะทำให้สำเร็จไว้ชัดเจน เช่น ฉันจะเขียนหนังสือให้จบเล่มและจัดจำหน่ายภายใน 3 เดือน
  3. กำหนดผลเป็นตัวเลขให้ชัดเจน เช่น ฉันจะมีรายได้จากการเขียนหนังสือให้ได้เดือนละ 10,000 บาท หรือยอดรวมทั้งปี 120,000 บาท
  4. เป้าหมายต้องท้าทาย ความท้าทายจะเป็นแรงกระตุ้น มันจะทำให้รู้สึกสนุก ไม่น่าเบื่อ มันจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกภูมิใจในตัวเองเวลาที่คุณประสบความสำเร็จ  มันอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความตื่นเต้น แต่ถ้าคุณต้องการความสำเร็จที่มากขึ้้น คุณต้องท้าทายตัวเอง

สรุปตัวอย่างการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

  • ฉันจะเขียนหนังสือให้จบเล่มและจัดจำหน่ายให้ได้ภายใน 3 เดือน มีรายได้เพิ่มอย่างน้อยเดือนละ 10,000 บาท
  • ฉันจะขายเครื่องสำอางให้ได้เดือนละ 10,000 บาท
  • ฉันจะลดน้ำหนักลง 10 กิโล ให้ได้ภายใน 4 เดือน

Step 3 วางแผนให้เป็นระบบทำอย่างไร

การวางแผนจะช่วยสามารถเดินทางไปสู่เป้าหมายได้อย่างไม่หลงทางและไม่เสียเวลา บรรลุเป้าหมายได้แน่นอน เพราะฉะนั้นเราต้องมาเรียนรู้การวางแผนอย่างเป็นระบบ โดย กำหนดแผน 4 ระดับ ได้แก่ แผนรายวัน แผนรายเดือน แผนรายปี และแผนตลอดชีวิต  โดยการวางแผนเราจะมองภาพรวมก่อน นำแผนตลอดชีวิตมาวางเป็นแกนหลักก่อน

  1. แผนตลอดชีวิต : ก็คือเป้าหมายชีวิตที่อยากเป็น และแผนในการรักษาความสำเร็จให้คงอยู่กับเราตลอดไป เช่น ฉันจะเขียนหนังสือออกมาปีละเล่ม และมีรายได้จากการเขียนหนังสือ เป็น Passive Income อย่างน้อยปีละ 100,000 บาท เป็นต้น
  2. แผนรายปี : กำหนดว่าเราจะใช้เวลากี่ปี ถึงจะบรรลุเป้าหมาย เช่น ฉันจะเป็นนักเขียนให้ได้ภายใน 3 ปี แล้วกำหนดออกมาว่าปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 คุณมีแผนจะทำอะไรในแต่จะปี กำหนดแผน 3 ปี ให้ชัดเจนเป็นแผนเป้าหมายย่อยของแต่ละปีเป็นการทำให้สำเร็จไปทีละขั้นแล้วคุณจะไม่รู้สึกท้อแท้ไปเสียก่อนที่คุณจะประสบความสำเร็จ
  3. แผนรายเดือน : เป็นการย่อยแผนรายปีออกมาอีกระดับ เป็นแผนการปฏิบัติเพื่อบรรลุความสำเร็จทีละขั้น เพราะเรื่องบางเรื่องอาจต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล ตัวอย่างเช่น ฉันจะต้องลดน้ำหนักลงให้ได้เดือนละ 2 กิโลกรัม หรือ ฉันต้องรวบรวมเนื้อหาเพื่อทำรายงานให้ครบภายในเดือนมกราคม และฉันต้องพิมพ์รายงานให้จบเล่มภายในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้น
  4. แผนรายวัน : ฉันถือว่าแผนการปฏิบัติรายวันนั้นสำคัญมาก เพราะเป็นการเลิกนิสัยแย่ๆที่เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ จากนั้นปลูกฝังนิสัยใหม่ๆ ของเราให้กลายเป็นนิสัยของคนสำเร็จ ซึ่งเราต้องฝึกฝนทำทุกๆวันซ้ำๆ จนกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำโดยอัตโนมัติ เมื่อเราทำได้อย่างอัตโนมัติแล้วเป้าหมายของคุณจะสำเร็จได้อย่างแน่นอน

Step 4 ลงมือทำอย่างไรให้สำเร็จเร็ว

เมื่อเราผ่านกระบวนการใน Step 1-3 แล้วก็ถือได้ว่าเราทำสำเร็จแล้วในขั้นเริ่มต้น แต่สิ่งที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่นั้น คือ การลงมือทำ คุณอย่าได้เสียเวลาอยู่ที่ Step 1-3 นานนัก ให้คิดและลงมือทำให้เร็ว ยุคนี้เป็นยุคของโลกออนไลน์ ใครทำก่อนย่อมได้เปรียบ แต่ว่าการลงมือทำโดยไม่ทำตาม Step 1-3 ก่อน คุณอาจจะเดินหลงทางและเสียเวลาเปล่าเช่นกัน และสรุปการลงมือทำให้สำเร็จเร็ว ไว้ดังนี้ค่ะ

  1. ลงมือทำตามแผน อย่ามัวรีรอเวลา ลุยเลย
  2. ทำด้วยความตั้งใจ ไม่ทำแบบขอไปที ทำงานให้ละเอียด แสดงถึงความใส่ใจ
  3. ถ้าทำเต็มที่ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ก็ปล่อยผลงานออกไป รอฟังเสียงตอบรับ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาผลงาน บางทีผลตอบรับอาจดีเกินคาด แต่ถ้ามันไม่ดีนัก ก็ไม่จำเป็นต้องนำมาคิดมาก คิดท้อแท้ แต่ให้นำมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป
  4. ทำให้ถูกวิธี และเป็นวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุด จะช่วยให้เราสำเร็จได้เร็ว
  5. ทำอย่างต่อเนื่อง ทำซ้ำๆ สม่ำเสมอ

Step 5 ประเมินผลและพัฒนา

ในกระบวนการสุดท้ายนี้ คือ การประเมินผลและการพัฒนา ซึ่งไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องรอให้ถึงกำหนดเวลาที่ต้องทำให้สำเร็จแล้วค่อยประเมินผล คุณควรประเมินผลตัวเองบ่อยๆทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี เป็นช่วงระยะเวลาย่อยสั้นๆตามกำหนดแผนที่คุณได้วางไว้ เพราะการประเมินผลอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้พบปัญหาหรือข้อบกพร่องได้เร็วขึ้น ทำให้คุณจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

บทสรุป

การทำอะไรให้สำเร็จตามเป้าหมาย ต้องมาจากการสร้างแรงบรรดาลใจให้กับตัวเองอยู่เสมอ กระตุ้นตัวเองอยู่ตลอดเวลา กำหนดเป้าหมาย และแผนให้ชัดเจน ลงมือทำอย่างมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆวัน

ไม่มีใครเก่งหรือทำอะไรให้สำเร็จโดยไม่ต้องใช้เวลาและความพยายาม เราทำได้ค่ะถ้าเราไม่ท้อไปเสียก่อน มาพยายามไปด้วยกันนะคะ แล้วเรามาพบกันที่ปลายทางของความสำเร็จค่ะ

เขียนด้วยความรัก / เขียนโดย นุชจรี ธรรมชาติ